เป็นระบบเทรดที่อาศัยหลักการเข้าออเดอร์แบบตามเทรนด์ เหมาะกับ Time Frame 30m ขึ้นไป เหมาะกับคู่เงิน EUR/USD, GBP/USD, AUD/USD, USD/CAD, NZD/USD, USD/CHF,  GBP/JPY, EUR/JPY, USD/JPY และคู่อื่นๆ จากการ Back Test พบว่า ควรตั้ง SL 20 pips เหนือหรือต่ำกว่าเส้น MA56 (เส้นสีขาว) ส่วนการตั้ง TP ควรตั้งในอัตราส่วน 1:2 ของ SL จะได้ผลการเทรดที่ดี (การใช้ระบบเทรดใดๆ ควรที่จะมีการ Back Test ทุกครั้ง เพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมกับวิธีการเทรดของตัวเอง)

ตัวอย่างการเข้าออเดอร์

มีระบบเก็บสั้นอีก 1 ระบบมานำเสนอ ชื่อว่า Luxury Scalping เหมาะกับ M5 ใช้ได้กับเงินลักทุกคู่ (ต้อง Back Test ก่อนเสมอ)

ถ้าหากวาง Indicator ถูกที่ เมื่อโหลด Template มาแล้วจะได้กราฟตามรูปด้านล่าง

1.เงื่อนไขการเข้า Buy

1.1 เมื่อ EMA 3 เส้นเรียงตัวกัน น้ำเงิน แดง เหลือง ขึ้นด้านบน (EMA20>EMA50>EMA200)

1.2 เมื่อ MAX OBOS Oscillators (10-20 สีแดง) อยู่เหนือ (30-40 สีน้ำเงิน)

*** สามารถเข้า Order ซ้ำได้เมื่อเห็นลักษณะการวิ่งกลับมาที่ EMA20(สีน้ำเงิน) และมีเงื่อนไขตามข้อ 1 และ ข้อ 2 ***

2. เงื่อนไขการเข้า Sell

2.1 เมื่อ EAM 3 เส้นเรียงตัวกันถูก น้ำเงิน แดง เหลือง ลงด่านล้าง (EMA20<EMA50<EMA200)

2.2 เมื่อ MAX OBOS Oscillators (10-20 สีแดง) อยู่ต่ำว่า (30-40 สีน้ำเงิน)

*** สามารถเข้า Order ซ้ำได้เมื่อเห็นลักษณะการวิ่งกลับมาที่ EMA20(สีน้ำเงิน) และมีเงื่อนไขตามข้อ 1 และ ข้อ 2 ***

Stop Loss : ให้วางสูง หรือต่ำกว่า EMA50 เผื่อไปประมาณ 20 จุด+ Spread

Profit Target : EUR/USD ประมาณ 80 จุด , AUD/USD ประมาณ 60 จุด , GBP/USD ประมาณ 100 จุด

เป็นระบบเทรดที่อาศัยหลักการการกลับตัวของราคา เหมาะกับ Time Frame 1H ขึ้นไป เหมาะกับทุกคู่เงิน จากการ Back Test พบว่า การตั้ง TP ควรตั้งในอัตราส่วน 1:2 ของ SL หรือเมื่อเกิดสัญญาณตรงข้าม (การใช้ระบบเทรดใดๆ ควรที่จะมีการ Back Test ทุกครั้ง เพื่อหาจังหวะที่เหมาะสมกับวิธีการเทรดของตัวเอง)

ตัวอย่างการเข้าออเดอร์ Buy

ตัวอย่างการเข้าออเดอร์ Sell

เป็นระบบเทรดที่อาศัยการเข้าออเดอร์ตามรูปแบบแท่งเทียนที่เรียกว่า Hammer เหมาะกับ Time Frame 15m ขึ้นไป ใช้ได้กับทุกคู่เงิน และยังเป็นการเทรดตามเทรนด์ที่ใช้เส้น MA มาช่วยในการลดความเสี่ยงในการเข้าออเดอร์ เนื่องจากการเข้าออเดอร์จะต้องเข้าในลักษณะตามเทรนด์หลัก คือเส้น MA ทั้งสองเส้นตัดกัน

การใช้ระบบเทรดใดๆ ควรมีการ Back Test ทุกครั้ง เพื่อทำความคุ้นเคยกับระบบ ช่วยในการตัดสินใจเข้าและออกออเดอร์ เพิ่มโอกาสที่จะชนะในตลาด