ChiangmaiFX : ก้าวสู่ปีที่ 15 อย่างมั่นคงในการเทรด Forex (2009 - 2024) โดยใช้วิชาเทคนิคอล (สถิติประยุกต์) มาช่วยเพิ่มโอกาสที่จะชนะ

 

การทำกำไรอย่างยั่งยืน

เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของการสอนเทรดของผม, ผมก็อยากจะทำอะไรเป็นพิเศษให้กับนักเรียน ผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมา นำเสนอข้อคิดหลายๆ อย่างเกี่ยวกับการเทรด เพราะผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อหลายๆ คน จึงตัดสินใจเผยแพร่ให้สาธารณะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่พวกเรา ไม่มากก็น้อย

หัวข้อใหญ่ที่จะพูดถึง คือทำอย่างไรให้อยู่รอด และทำกำไรในตลาดได้อย่างยั่งยืน, ไม่ใช่วันเดียวกำไร 100% แล้วพรุ่งนี้ล้างพอร์ต สรุปว่าพ่ายแพ้, รวมถึงแนวคิดที่ถูกต้องในการเดินสายการเป็นเทรดเดอร์ จากมุมมองเทรดเดอร์น้อยๆ ของผมหลายๆ คนคาดหวังว่า จะใช้การเทรดเป็นอาชีพที่เลี้ยงดูตนเอง ครอบครัว และพ่อแม่ได้, (ความฝันนี้ คือจุดเริ่มต้นในการเดินสายการเทรดของผม  ยังทำให้เดินหน้าอยู่ถึงทุกวันนี้), แต่พอเริ่มที่คิดจะเดินเส้นทางเทรดเดอร์แบบจริงจัง พบว่ามันไม่ง่ายเลย, ส่วนที่ยากไม่ใช่ทำกำไร ทุกคนเคยกำไรจากออเดอร์หมด แต่ที่ยาก คือทำอย่างไรที่จะอยู่รอดได้ในระยะยาวต่างหาก เพราะที่เป็นกันมาก คือชนะบ้าง แพ้บ้าง สลับกันไป แต่สุดท้ายผลรวมคือแพ้ และบางคนแพ้หนักมาก จนต้องย้อมแพ้ และออกจากการเทรดกลับไปเดินเส้นทางเดิม และทิ้งความฝันที่จะมีชีวิตอิสระนี้ไป

แล้วจะทำอย่างไร ให้ชนะในระยะยาวได้ ?
จากประสบการณ์สอนเทรดของผม พบว่า สิ่งแรกที่นักเรียนควรจะต้องปรับกันเป็นอันดับแรก คือ Mind set, ถ้าถามนักเรียนว่า เป้าหมายของการเทรดตอนนี้ของเธอ คืออะไร แทบทุกคนจะตอบว่า อยากจะกำไรเยอะๆ, ซึ่งมันก็ถูก แต่...เธอตอบเร็วเกินไป เร็วมากๆ ด้วย, ถ้าเปรียบกับการแข่งกีฬา คือเธอกำลังมองว่าอยากเป็นแชมป์ ในหัวจะมีแต่ภาพว่าเริ่มต้นเป็นนักกีฬา แล้วก็เป็นแชมป์เลย, แต่มักจะมองข้ามขั้นตอนระหว่างทางว่า การจะเป็นแชมป์ได้จะต้องผ่านอะไรบ้าง แล้วถ้าเธออยากจะเทรดเก่ง ควรจะผ่านอะไรบ้าง, พอพูดอย่างนี้หลายคนถึงจะเริ่มตระหนักละว่า คำตอบที่ว่าอยากกำไรเยอะๆ ทันที เป็นคำตอบที่ตอบข้ามขั้นตอนไปหน่อย ตอนนี้พวกเราเริ่มเห็นอะไรในหัวบ้างแล้วใช่ไหมว่า "เราต้องผ่านทีละขั้น ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ฝึก สะสมประสบการณ์ และต้องผ่านภาวะที่ยากลำบาก กว่าจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้" สิ่งสำคัญ คือความทุ่มเท ความพากเพียร และความอดทนในการฝึกฝน ซึ่งจะต้องควบคู่กับการมีความรู้ ว่าต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่จะทำให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืนในตลาด

เป็นที่รู้กันว่า "การสอนที่ดีที่สุด คือการทำให้ดู" ผมจึงขอยกตัวอย่างจริง พร้อมคำอธิบายจากพอร์ตจริงของผม โดยหวังว่านอกจากพวกเราจะได้ความรู้ แล้วยังจะทำให้อยู่ในความมุ่งมั่นในการฝึกต่อไป เพราะมีตัวอย่างว่า คนธรรมดาที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างผม (Rojer cmFX) ทำได้ พวกเราก็ทำได้เช่นกัน

พอร์ตนี้เป็นพอร์ตเงินจริง ตาม link myFXbook นี้ : http://www.myfxbook.com/members/wiroaj/rojer-cmfx/526691 เริ่มจากทุน 10,000 ดอล, ตอนหลังทำกำไรได้เยอะ จึงถอนทุนทั้งหมดพร้อมกำไรส่วนหนึ่ง เหลือไว้แต่กำไรเป็นต้นทุนในการเทรด (ปิดประตูความเสี่ยงจากการเสียเงินต้น) ตอนหลังมีการปรับพอร์ต ฝากถอนอีกหลายรอบ ด้วยเหตุผล Leverage (โบรคปัจจุบันมีการปรับ LV เมื่อทุนเปลี่ยน ซึ่งผมไม่ชอบเท่าไหร่ อาจจะย้ายโบรค ย้ายพอร์ตเร็วๆ นี้) พอร์ตนี้ถึงวันนี้ถอนกำไรไปแล้ว 4,000 กว่าดอล, และเหลือกำไรในพอร์ตใช้ทำกำไร จากกำไร อีก 8,000 กว่าดอล

เรามาดูกันเลยว่าเรียนรู้อะไรได้จากพอร์ตตัวอย่างนี้
1. บริหารความเสี่ยงของเงินทุน : ถ้าอยากจะชนะในระยะยาว ควรใช้ความเสี่ยงต่ำมาก, ตามทฤษฏี Money Management คือ 2%, ซึ่งระดับความเสี่ยงที่ต่ำๆ แบบนี้ทำให้ความเครียดในการเทรดต่ำมาก ใจนิ่ง และทำตามระบบได้ง่ายขึ้น และถ้าเราผิดทางจริง เราก็ยังเหลืออีก 98% ของพอร์ตมาใช้แก้พอร์ตได้ง่ายมากๆ, เล็งเป้าไว้น้อยๆ แต่ถ้าถูกทางมักจะได้เกินกว่านั้นอยู่ละ, และอย่าได้ดูแคลน 2% เพราะจากพอร์ตนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 2% กลายเป็น 600+% ได้ในระยะยาว

2. ระบบเทรด : เราต้องมีระบบที่ดีพอสมควร, %win อย่างน้อยก็ต้องมากกว่า 50% (เพราะการเทรดมีแค่สองทาง คือ ขึ้นกับลง ควรจะเป็น 50-50) ถ้าระบบไหนที่ ต่ำกว่า 50% ก็ไม่ค่อยดีละ, ยกเว้นพวกระบบแนวที่ผมเรียกเล่นๆ ว่า "ซื้อหวย" คือ ได้ทีได้เยอะมาก แต่โอกาสถูกต่ำ ซึ่งผมไม่ถนัดแนวนี้, สำหรับระบบที่ผมใช้อยู่ความแม่นประมาณ 70-80%, ซึ่งเรื่องระบบเป็นเรื่องแรกที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังไม่มีกัน, ถ้าเทรดแบบไม่มีระบบที่ชัดเจน ในระยะยาวจะพัฒนาได้ยากมาก, ตรงกันข้าม ถ้ามีระบบแล้ว เราจะเห็นข้อดี ข้อเสีย รวมถึงการปรับปรุง และแก้ไขระบบเทรดให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ เพราะเรามีสิ่งที่เป็นรูปธรรมให้ดู ให้วิเคราะห์ แก้ไข ทดสอบได้ นั่นเพราะเรามี "ระบบ", ถ้าจะพูดถึงรายละเอียดของระบบ ก็จะยาวมาก คอร์สสอนของผมก็เน้นเรื่องระบบเป็นหลัก, ถ้าใครสนใจก็ลองเชิญไปแวะชมได้ที่ www.chiangmaifx.com, มีทั้งระบบแจกฟรี และคอร์สเรียนเป็นเรื่องเป็นราว (ระบบที่ผมใช้อยู่ปัจจุบันก็สอนใน Advance Course)

3. วินัย : เราต้องรู้จักการอดทนรอคอย, สัญญาณจากระบบยังไม่มา ก็อย่าเข้า-ออก, ถ้าบังคับใจตัวเองได้ รักษาวินัยดีๆ ผลงานก็อย่างที่เห็นจากพอร์ตจริงผมเลย คือแพ้ชนะไปตามระบบล้วนๆ ไม่แพ้เพราะเรื่องวินัยแย่อีกต่อไป กราฟกำไรก็จะไม่แกว่งขึ้นลงไปเรื่อย แต่ความชันแทบจะคงที่ (มีฟลุ้คกระโดดบ้างเป็นระยะๆ), ที่กราฟกำไรขึ้นเป็นเส้นตรงได้อีกส่วนหนึ่งเพราะว่า ผมมีเป้าหมายการเทรดประจำวัน, พอได้เป้าหมายแล้วก็จะหยุด เพราะถ้าเราเทรดเรื่อยๆ แช่ในตลาดนานๆ มีโอกาสที่จะเจอภาวะผิดปกติได้ตลอด เช่นกราฟวิ่งแรงสวนทางเรา ฉะนั้นอย่าเสียงโดยไม่จำเป็น ด้วยการเทรดตลอดเวลา, เคยเจอหลายวัน ที่พอเปิดกราฟย้อนหลัง ช่วงที่ไม่ได้เทรด พบว่า ถ้าเราเทรดอยู่ตอนนั้น ท่าทางจะมีปัญหา เพราะกราฟกระชากไปกลับแรงมากเพราะข่าว (ระบบส่วนใหญ่ จะแพ้เรื่องนี้)

จะเห็นได้ว่า องค์ประกอบทั้ง 3 อย่าง (บริหารความเสี่ยงของทุน, ระบบเทรด, วินัย) เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สักอย่าง, ตำราต่างๆ พูดถึงสามอย่างนี้เหมือนกันหมด แม้ว่าอาจจะใช้ชื่อแตกต่างกัน, ถ้าอยากเป็นเทรดเดอร์ที่ชนะตลาดได้อย่างยั่งยืนแล้ว ต้องตามหา และฝึกฝน 3 สิ่งนี้ให้เชี่ยวชาญ, การบริหารความเสี่ยง และระบบเทรดนั้นพอจะสอนกันได้ แต่ก็ไม่มีโค้ชคนไหนที่จะทำให้นักกีฬาทุกคนเป็นแชมป์ได้ทั้งหมด โค้ชให้ได้แค่ความรู้ ส่วนจะลงมือทำได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเรียนอีกทีว่าทุ่มเทฝึกฝนแค่ไหน ซึ่งถ้าฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่น จนกล้าทำตามระบบ และความเสี่ยง และเมื่อฝึกซ้ำๆ มากพอ และมีวินัย ก็จะกลายเป็นทักษะ ซึ่งจะทำให้สามารถทำได้ผลที่ดีเรื่อยๆ จนสามารถอยู่รอดในตลาดได้ และตามมาด้วยการชนะตลาดอย่างยั่งยืนนั่นเอง